ลักษณะการคายประจุของแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า

แบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า (forklift battery) หรือแบตเตอรี่ของรถยก มีลักษณะการคายประจุที่

แตกต่างจากแบตเตอรี่ทั่วไป เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า มักมีขนาดใหญ่และมีความจุสูง

เป็นที่นิยมในการใช้ในงานอุตสาหกรรมหนัก ดังนั้น กระบวนการชาร์จและลักษณะการคายประจุของ

แบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้ามีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากขนาดและการใช้งานที่แตกต่างกัน

ลักษณะการคายประจุของแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้ามีลักษณะที่สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอน

หลัก ๆ ดังนี้:

การดัดแปลงกระแส (Equalization Charging) เป็นขั้นตอนที่ใช้ เพื่อปรับปรุงการใช้งานของแบตเตอรี่และ

ทำให้เซลล์ทุกเซลล์ได้รับประจุเท่าเทียมกัน โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือเพื่อทำให้ค่าประจุ (State of Charge

– SoC) ของเซลล์ทั้งหมดเข้าใกล้กันมากขึ้น และลดความแตกต่างในประจุระหว่างเซลล์ที่มีอาการ

ไม่สม่ำเสมอ

ขั้นตอนการดัดแปลงกระแสมักจะใช้กระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้นจากขั้นตอนปกติของการชาร์จ เพื่อให้ประจุได้รับ

การกระจายเท่าเทียมกัน ขั้นตอนนี้มักจะทำในช่วงเวลาที่ระบบไฟฟ้าไม่ได้ใช้งาน, เช่น ในช่วงเวลาที่รถยก

ไม่ได้ใช้งานหรือทำงานน้อย

ปัจจัยที่ส่งผลให้ต้องการการดัดแปลงกระแสสามารถเป็นไปได้จาก

  • อุณหภูมิแตกต่างกัน : การที่เซลล์บางตัวมีอุณหภูมิที่ต่างกันอาจทำให้การชาร์จไม่เท่าเทียม การดัดแปลง

กระแสสามารถช่วยปรับปรุงการกระจายอุณหภูมิภายในแบตเตอรี่

  • การใช้งานที่ไม่สม่ำเสมอ : หากเซลล์บางตัวในแบตเตอรี่ถูกใช้งานมากกว่าเซลล์บางตัว, อาจทำให้เซลล์

ที่ใช้งานมากมีค่าประจุที่ต่ำกว่าเซลล์ที่ใช้งานน้อย

  • ความแตกต่างในคุณภาพของเซลล์: ถ้ามีความแตกต่างในคุณภาพของเซลล์ที่ติดตั้งในแบตเตอรี่,

บางเซลล์อาจมีการรับประจุได้ไม่ดีเท่ากับเซลล์อื่น ๆ

สรุป

การดัดแปลงกระแส สามารถทำได้โดยการเพิ่มกระแสไฟฟ้าที่ถูกให้แก่แบตเตอรี่ ซึ่งทำให้เซลล์ที่อยู่ใน

สภาวะประจุต่ำมีโอกาสได้รับประจุมากขึ้น และสุดท้ายทำให้ค่าประจุของทุกเซลล์เข้าใกล้เคียงกันมากขึ้น

การดัดแปลงกระแสต้องทำอย่างระมัดระวังเนื่องจากการให้กระแสไฟฟ้าที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิด

การร้อนเกินไปหรือเสี่ยงต่อความเสียหายของแบตเตอรี่

เมื่อแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้าได้รับประจุเต็มแล้ว กระบวนการชาร์จจะถูกเปลี่ยนเป็นโหมดชาร์จแบบ

Float  ทำให้แบตเตอรี่รักษาประจุที่ระดับที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานปกติ โหมด Float มักให้กระแสไฟฟ้าที่

ต่ำกว่โหมด CC และ CV เพื่อป้องกันการเกิดความร้อนจากกระบวนการชาร์จ

การชาร์จแบบ Float เป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการชาร์จของแบตเตอรี่หลังจากที่ได้รับประจุเต็มแล้ว

โหมดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาประจุของแบตเตอรี่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานปกติ โดยปกติจะ

มีลักษณะการทำงานดังนี้ : 

รักษาประจุที่ระดับที่เหมาะสม: ในโหมด Float, แบตเตอรี่จะได้รับกระแสไฟฟ้าที่ต่ำกว่าในโหมด CC และ CV

ซึ่งทำให้แบตเตอรี่รักษาประจุในระดับที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานปกติ โดยทั่วไป, กระแสนี้จะเพียงพอที่จะ

ทดแทนการสูญเสียของประจุที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานปกติของรถยก

ป้องกันการร้อน: การให้กระแสไฟฟ้าที่ต่ำกว่าทำให้การชาร์จมีอุณหภูมิที่ต่ำลง, ลดความเสี่ยงของการเกิด

ความร้อนมากเกินไปที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อแบตเตอรี่

รักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่: การทำงานในโหมด Float  ช่วยลดการสึกหรอและความเครียดต่อ

แบตเตอรี่ ซึ่งสามารถช่วยในการรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานขึ้น

สรุป

การใช้โหมด Float เป็นการป้องกันการรั่วไหลประจุ, ลดการกัดกร่อนของแผนผังซีล, และรักษาสภาพ

แบตเตอรี่ในสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บในระยะยาวโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากในการบำรุง

รักษา

การทำงานในโหมด Float จะเป็นประโยชน์มากในกรณีที่แบตเตอรี่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ, เช่น ในช่วงเวลาที่

รถยกไม่ได้ใช้งานหรือติดตั้งในตู้ชาร์จเพื่อการจัดเก็บในระยะยาว

การทำงานในโหมด Float จะเป็นประโยชน์มากในกรณีที่แบตเตอรี่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ, เช่น ในช่วงเวลาที่

รถยกไม่ได้ใช้งานหรือติดตั้งในตู้ชาร์จเพื่อการจัดเก็บในระยะยาว

การตรวจสอบและบำรุงรักษาแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า


ขั้นตอน

การบำรุงรักษา

วิธีการดำเนินงาน

หมายเหตุ

ความถี่

ภาพประกอบ

1 ตรวจสอบค่าแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้าว่าต่ำหรือไม่ ตรวจสอบได้ที่หน้าจอการแสดงผล(SOC )ผลแสดงค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ % ค่าแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้าต่ำกว่า 25% ควรรีบดำเนินกำรชาร์จ ทันที ทุกวัน
2 ตรวจสอบแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้าในขณะกำลังชาร์จ ตรวจสอบได้ที่หน้าจอการแสดงผล (SOC)ผลแสดงค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ % ค่ากระแส(A)ไม่ขึ้น ทำกำรตรวจเช็คปลั๊กตู้และตู้ชาร์จ ทุกวัน
3 ตรวจสอบลักษณะภายนอกของแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า สังเกตลักษณะตัวถังผิดรูป หรือ มีลอย กระแทก บุบ หรือไม่ หากพบถังผิดรูป ให้แจ้งช่างเข้าตรวจสอบ เนื่องจากอุปกรณ์ภายในอาจชำรุดเสียหาย ทุกวัน
4 ตรวจสอบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า สังเกตว่ามีสิ่งแปลกปลอมในปลั๊กมีสนิมหรือรอยไหม้ หรือไม่ หากพบว่าปลั๊กมีสิ่งแปลกปลอมให้แจ้งช่าง เข้าตรวจสอบ และทำกำรเปลี่ยนทันที ทุกวัน
5 ตรวจสอบสายเคเบิล สังเกตที่สายเคเบิลว่ามีการชำรุดหรือไม่ หากสายเคเบิล ชำรุด ให้แจ้งช่างเพื่อทำการเปลี่ยน เพราะจะทำให้ BMS อ่านค่าผิดพลาด ทุกวัน
6 ตรวจสอบชุดสายไฟภายนอก สังเกต ตรงชุดสายไฟ มีการ สึกหรอ รอยทับ หรือ แกนสายเปิดหรือไม่ หากชุดสายไฟ้ ชำรุด ให้แจ้งช่างเพื่อทำการเปลี่ยน เนื่องจากไฟอาจลัดวงจรได้ ทุกวัน
7 ตรวจสอบ ชุดน็อต ด้านนอกถังแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า สังเกตตรงชุดน็อต ว่ามีการคายเกลียว หรือหลวม หรือไม่ หาก ชุดน็อต หลวม ให้ทำการไขให้แน่นไขให้แน่นทุกตัว ทุกวัน
8 ทำความสะอาดอุปกรณ์ภายนอกทั้งหมด นำผ้าแห้งสะอาดมาเช็ดตัวถังแบตเตอรี่และ นำเครื่องเป่าลมมาทำกำรเป่าฝุ่น ห้ามทำความสะอาดด้วยน้ำ โดยตรงอาจทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสียหาย ทุกวัน

การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเข้มงวดเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อรักษาอายุการใช้งานของ

แบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า ให้ยาวนาน ดังนี้ : 

  • อ่านคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจกับแบตเตอรี่ลิเธียมรถยกไฟฟ้า และขั้นตอน

การใช้งานที่ถูกต้อง

  • อัพเดทบนอุปกรณ์ของคุณเสมอ เนื่องจากอุปกรณ์ใหม่อาจจะช่วยลดการใช้งานแบตเตอรี่ได้
  • ปรับการตั้งค่าบนอุปกรณ์ของคุณให้เหมาะสมกับการใช้งาน
  • ใช้แบตเตอรี่ตามขั้นตอนที่ระบุในคู่มือการใช้งาน เช่น อย่าใช้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 25 % จะทำให้แบตเตอรี่

ลิเธียมรถยกไฟฟ้าร้อนเกินไป

  • ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ช่วยดูแลการใช้งานแบตเตอรี่ เช่น แอปพลิเคชันสำหรับการจัดการการใช้งาน

แบตเตอรี่

  • ติดปัญหาตรงไหน ติดต่อเจ้าหน้าที่ : 0-2077-960

เซลล์พลังงาน LiFePO4

ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต (LiFePO4) ยังมีในรูปแบบ 18650 อีกด้วย ซึ่งมีอายุการใช้งานวงจรสูงและ

ประสิทธิภาพในการโหลดที่เหนือกว่า แต่มีพลังงาน (ความจุจำเพาะ) ต่ำ ตารางที่ 1 เปรียบเทียบข้อกำหนด

ของสถาปัตยกรรมที่ใช้ลิเธียมทั่วไป ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประเภทของลิเธียมไอออน

เคมี

นอมินอล วี ความจุ พลังงาน วงจรชีวิต กำลังโหลด

บันทึก

พลังงานลิเธียมไอออน 3.6V/เซลล์ 3,200mAh 11.5 วัตต์ ~1,000 1C (โหลดเบาเท่านั้น) ชาร์จช้า(<1C)
พลังงานลิเธียมไอออน 3.6V/เซลล์ 2,000mAh 7.2Wh ~1,000 5C (โหลดขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง) อุณหภูมิที่ดี พิสัย
LiFePO4 3.3V/เซลล์ 1,200mAh 3.9Wh ~2000 25C (โหลดต่อเนื่องขนาดใหญ่มาก) แข็งแรงทนทานปลอดภัย

ตารางที่ 1: การเพิ่มความจุ อายุการใช้งาน และการโหลดสูงสุดด้วยสถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ลิเธียม

คำแนะนำง่ายๆ สำหรับการคายประจุแบตเตอรี่

  • ความร้อนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่แต่ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงสองเท่าทุกๆ

10°C ที่เพิ่มขึ้นเหนือ 25–30°C (18°F เหนือ 77–86°F) รักษาแบตเตอรี่ให้เย็นอยู่เสมอ

  • ป้องกันการคายประจุมากเกินไป การกลับเซลล์อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
  • เมื่อมีภาระสูงและการปล่อยประจุจนเต็มซ้ำๆ ให้ลดความเครียดโดยใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
  • การคายประจุไฟฟ้ากระแสตรงในระดับปานกลางจะดีกว่าสำหรับแบตเตอรี่มากกว่าแบบพัลส์และ

โหลดชั่วขณะที่มีปริมาณมาก

  • แบตเตอรี่มีลักษณะคล้ายตัวเก็บประจุเมื่อคายประจุที่ความถี่สูง ซึ่งจะช่วยให้กระแสพีคสูงกว่าที่เป็นไปได้

ด้วยโหลดไฟฟ้ากระแสตรง

  • แบตเตอรี่ที่ใช้นิกเกิลและลิเธียมมีปฏิกิริยาเคมีที่รวดเร็ว กรดตะกั่วจะเชื่องช้าและต้องใช้เวลาสองสาม

วินาทีในการฟื้นตัวระหว่างการบรรทุกหนัก

  • แบตเตอรี่ทั้งหมดจะเกิดความเครียดเมื่อยืดออกไปจนถึงค่าความคลาดเคลื่อนสูงสุดที่อนุญาต