ตารางสรุปของแบตเตอรี่ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion battery) เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้ลิเธียม (Lithium) เป็นสารที่ใช้ใน
การจัดเก็บและส่งออกพลังงานไฟฟ้า มีหลายตระกูลแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่มีคุณสมบัติเคมีและ
สมบัติทางพลังงานที่แตกต่างกันอย่างมาก
สาระน่ารู้
1.แบตเตอรี่ลิเธียม – โคบอลต์ Li-cobalt (LCO – Lithium Cobalt Oxide)
- มีความจุสูงแต่ความทนทานต่ำ: แบตเตอรี่ลิเธียม-โคบอลต์ Li-cobalt มีความจุสูงที่ช่วยให้มีความเหมาะ
สมในการใช้งานที่ต้องการพลังงานสูง เช่น ในโทรศัพท์มือถือที่ต้องการการใช้งานที่ดีเป็นเวลานาน แต่ความทนทานของ แบตเตอรี่ลิเธียม-โคบอลต์ Li-cobalt น้อยกว่าตระกูลแบตเตอรี่บางชนิดอื่น ๆ ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่ออาการร้อนและความเป็นอันตรายเมื่อเกิดสภาวะเสีย
- ใช้ในการใช้งานแบบพกพา (เช่น โทรศัพท์มือถือ): แบตเตอรี่ลิเธียม-โคบอลต์ Li-cobalt มีน้ำหนักและ
ขนาดที่เล็ก ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในอุปกรณ์พกพาเช่น โทรศัพท์มือถือที่ต้องการพลังงานสูงในการใช้งานประจำวัน
- มีความเสี่ยงต่อความร้อนและเสี่ยงต่อความเป็นอันตรายเมื่อเสีย: แบตเตอรี่ลิเธียม-โคบอลต์ Li-cobalt
มีความเสี่ยงต่อความร้อนและเสี่ยงต่อความเป็นอันตรายเมื่อเสีย เมื่อถูกทำงานในสภาวะอุณหภูมิสูงหรือถูกกระแทกหรือทำลายอาจเกิดการระเบิดหรือการร้อนเกินได้ที่อาจเป็นอันตราย ดังนั้นการรักษาและการใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียม-โคบอลต์ Li-cobalt ต้องระมัดระวังอย่างมากเพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรง
2.แบตเตอรี่ลิเธียม – แมงกานีส Li-manganese (LMO – Lithium Manganese Oxide)
- มีความจุสูงและความทนทานสูง: แบตเตอรี่ลิเธียม – แมงกานีส Li-manganese มีความจุสูงที่ช่วยให้มี
ประสิทธิภาพในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าสูง และมีความทนทานสูง นี้ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่
ต้องการความยาวนานในการใช้งานและการใช้งานที่ต้องการความสามารถในการจ่ายพลังงานอย่างรวดเร็ว
เช่นในรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องการพลังงานสูงในการเคลื่อนไหว
- ใช้ในการใช้งานแบบพกพาและในยานพาหนะ (เช่น รถยนต์ไฟฟ้า): แบตเตอรี่ลิเธียม – แมงกานีส
Li-manganese มีคุณสมบัติที่เหมาะ สำหรับการใช้งานทั้งแบบพกพา เช่น ในอุปกรณ์พกพาและการใช้งานใน
ยานพาหนะ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องการความทนทานและประสิทธิภาพในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้า
- มีความปลอดภัยมากกว่า Li-cobalt: แบตเตอรี่ลิเธียม – แมงกานีส Li-manganese มีระดับความปลอดภัย
ที่สูงกว่าแบตเตอรี่ Li-cobalt(LCO) ซึ่งมักมีความเสี่ยงต่อความร้อนและความเป็นอันตรายเมื่อเสีย การใช้งาน
แบตเตอรี่ LMO มักนิยมในแอพลิเคชันที่ต้องการความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เช่น ในยานพาหนะ
ไฟฟ้าที่ต้องการการประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
3.แบตเตอรี่ลิเธียม NMC (Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide)
- มีความจุสูงและมีความทนทานดี: แบตเตอรี่ลิเธียม NMC มีความจุสูงที่ช่วยให้มีความสามารถในการจัด
เก็บพลังงานไฟฟ้าสูง และมีความทนทานที่ดีในการใช้งานทั่วไป ดังนั้นเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการ
ความยาวนานและความสามารถในการจ่ายพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- มีสมดุลระหว่างความจุและความปลอดภัย: แบตเตอรี่ลิเธียม NMC มีสมดุลระหว่างความจุ (High Energy
Density) และความปลอดภัย ซึ่งหมายความว่ามีความสามารถในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าสูงโดยไม่เสี่ยงต่อ
ความร้อนหรือความเป็นอันตราย นี้ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในยานพาหนะและอุปกรณ์พกพาที่ต้องการ
ความปลอดภัยและความสามารถในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าสูง
- ใช้ในยานพาหนะและอุปกรณ์พกพา: แบตเตอรี่ NMC มักใช้ในยานพาหนะไฟฟ้า เนื่องจากมีความ
สามารถในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าสูงและมีความปลอดภัย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับใช้งานในอุปกรณ์
พกพาที่ต้องการพลังงานสูงและความทนทาน เช่น อุปกรณ์สำรองพลังงานสำหรับการเดินป่าหรือ
เครื่องมือต่าง ๆ ที่ต้องการพลังงานสูง
สรุป
การเลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียม NMC นั้นเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสามารถในการจัดเก็บพลังงาน
ไฟฟ้าสูงและความปลอดภัย และมีการใช้งานอย่างทั่วไปในยานพาหนะและอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ
ที่ต้องการคุณสมบัติเหล่านี้ในการใช้งาน
4.แบตเตอรี่ลิเธียม – อลูมิเนียม Li-aluminum (LFP – Lithium Iron Phosphate)
- มีความจุสูงและมีความทนทานสูง: แบตเตอรี่ลิเธียม-อลูมิเนียม Li-aluminum (LFP) มีความจุสูงที่ช่วย
ให้มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าสูง และมีความทนทานสูง นี้ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่
ต้องการความยาวนานและความสามารถในการจ่ายพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในงานที่
ต้องการความทนทานต่อเครื่องสั่นสะเทือนหรือการทำงานในสภาวะสภาพแวดล้อมที่ทุกข์ยาก
- ใช้ในยานพาหนะและแอพลิเคชันที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-อลูมิ
เนียม LFP มักใช้ในยานพาหนะไฟฟ้า เนื่องจากมีความปลอดภัยและความทนทานต่อความร้อนและสภาวะ
สภาพแวดล้อมที่ทุกข์ยาก นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการใช้งานในแอพลิเคชันที่ต้องการความทนทาน
และความปลอดภัยสูง เช่น ระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์, ระบบจัดเก็บพลังงานสำรอง, และแอพลิเคชัน
พลังงานทดแทนอื่น ๆ ที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานในการใช้งาน
สรุป
การเลือกใช้-อลูมิเนียม LFP เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานในการใช้งาน
โดยเฉพาะในระบบพลังงานทดแทนและยานพาหนะไฟฟ้าที่ต้องการความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพใน
การจัดเก็บพลังงานไฟฟ้า
5.แบตเตอรี่ลิเธียม – ฟอสเฟต (LiFePO4 – Lithium Iron Phosphate)
- มีความจุน้อยแต่มีความทนทานสูงและปลอดภัย: แบตเตอรี่ลิเธียม-ฟอสเฟต มีความจุน้อยกว่าบาง
ตระกูลแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม มีความทนทานสูงและเป็นที่นิยมในงานที่ควรมี
ความปลอดภัย นั่นเป็นเพราะ แบตเตอรี่ลิเธียม-ฟอสเฟตมีความต้านทานต่อการร้อนสูงและมักไม่เกิด
การระเบิดเมื่อถูกทดสอบหรือใช้งานในเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสม
- มีแรงดันไฟฟ้าต่ำ: แบตเตอรี่ลิเธียม-ฟอสเฟต มีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าตระกูลแบตเตอรี่บางชนิดอื่น ๆ ที่มี
ความต้านทานต่อแรงดันไฟฟ้าสูง นี้ทำให้มักใช้ในงานที่ไม่ต้องการแรงดันไฟฟ้าสูง โดยเฉพาะในระบบที่มุ่ง
เน้นความปลอดภัยและความทนทานมากกว่าความจุ
- ใช้ในงานที่ต้องการความทนทานและความปลอดภัย เช่น ระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์: แบตเตอรี่ลิ
เธียม-ฟอสเฟตมักถูกนำมาใช้ในระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงและความ
ทนทานต่อสภาวะสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน นอกจากนี้ แบตเตอรี่
ลิเธียม-ฟอสเฟต ยังมีความสามารถในการรับและจ่ายพลังงานไฟฟ้าอย่างนราบจากแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
การเลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ฟอสเฟต มักเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานและความปลอดภัยใน
การใช้งาน โดยเฉพาะในระบบพลังงานทดแทนและการจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
และความประสิทธิภาพในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้า
6.แบตเตอรี่ลิเธียม – ไททาเนต Li-titanate (LTO – Lithium Titanate)
- มีความจุน้อยและแรงดันไฟฟ้าต่ำ: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไททาเนต Li-titanate (LTO) มีความจุน้อยกว่าส่วน
ใหญ่ของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอื่น ๆ และมีแรงดันไฟฟ้าต่ำ ซึ่งทำให้มีความสามารถในการรับและจ่าย
พลังงานไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว และเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการชาร์จและรบกวนไฟฟ้าต่ำ
- มีความทนทานสูงมาก: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไททาเนต LTO มีความทนทานสูงมากและมีอายุการใช้งานที่
ยาวนาน สามารถรับและจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้จำนวนมากโดยไม่เสียสมรรถนะ ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับ
การใช้งานที่ต้องการความทนทานและความคงทนในการใช้งานระยะยาว
- ใช้ในงานที่ต้องการการชาร์จและรบกวนไฟฟ้าต่ำ เช่น รถไฟฟ้าและระบบพลังงานสำรอง: แบตเตอรี่
ลิเธียม-ไททาเนต LTO มักใช้ในรถไฟฟ้าและระบบพลังงานสำรองที่ต้องการการชาร์จและรบกวนไฟฟ้าต่ำ
ซึ่งมีความสามารถในการรับและจ่ายพลังงานไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว และสามารถทำงานในสภาวะสภาวะสภาพ
แวดล้อมที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำได้ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ LTO ยังมีประสิทธิภาพในการรับและจ่ายพลังงานไฟฟ้า
ในสภาวะของการชาร์จและรบกวนที่ไม่เป็นธรรมดา
สรุป
การเลือกใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไททาเนต LTO มักเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการชาร์จและรบกวนไฟฟ้าต่ำ
และความทนทานสูงมาก เช่น ในระบบขนส่งสาธารณะที่ใช้รถไฟฟ้า ระบบพลังงานสำรองในกรณีฉุกเฉิน
หรือแอพลิเคชันที่ต้องการความคงทนและความปลอดภัยในการใช้งานระยะยาว
คุณสมบัติ | Li-cobalt | Li-manganese | NMC | Li-aluminum | Li-ฟอสเฟต | Li-titanate |
---|---|---|---|---|---|---|
ความจุ | สูง | สูง | สูง | สูง | น้อย | น้อย |
ความทนทาน | ต่ำ | สูง | สูง | สูง | สูง | สูง |
แรงดันไฟฟ้า | สูง | สูง | สูง | สูง | ต่ำ | ต่ำ |
ความปลอดภัย | ต่ำ | สูง | สมดุล | สูง | สูง | สูง |
ใช้ในงาน | พกพา | พกพา, ยานพาหนะ | พกพา, ยานพาหนะ | ยานพาหนะ | พลังงานแสงอาทิตย์ | รถไฟฟ้า, พลังงานสำรอง |
ตารางที่ 1: สรุปคุณลักษณะของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนหลักๆ
ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับ : ประเภทของลิเธียมไอออน